หลังจากพยายามลดน้ำหนักด้วยวิธีการหรือสูตรต่างๆมากมายไม่ว่าจะเอามาจากอินเตอร์เน็ต หนังสือ หรือจากที่บอกต่อๆกันมา น้ำหนักก็ลงบ้าง สักพักก็ขึ้นบ้าง ผอมได้ไม่กี่เดือนกลับมาอ้วนอีกละ และชีวิตเหมือนกับว่าต้อง"ไดเอท"อยู่ตลอดเวลา เริ่มไดเอทตั้งแต่สองปีที่แล้ว... ทุกวันนี้ก็ยังคงต้องไดเอทอยู่ จะกินอะไรแต่ละทีก็ต้องคอยระวัง แต่น้ำหนักก็ยังไม่ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ จนหลายคนเริ่มท้อ หมดกำลังใจ และล้มเลิกไปในที่สุด หรือบางคนเริ่มหันไปใช้ทางเลือกที่ดูเหมือนจะง่ายแต่อันตราย เช่นพวกยาลดน้ำหนัก นั่นยิ่งทำให้อะไรเลวร้ายไปกว่าเดิม เพราะช่วงระยะแรกๆที่ใช้ยา แน่นอนค่ะว่าน้ำหนักลดในระดับหนึ่ง แต่พอคุณหยุดเท่านั้นแหละ น้ำหนักก็เด้งกลับมาอย่างรวดเร็วและเผลอๆจะมากกว่าตอนก่อนใช้ยาซะอีก นี่ยังไม่พูดถึงความเสียหายหรือผลกระทบของระบบต่างๆ ภายในร่างกายอย่างพวกระบบเผาผลาญ ซึ่งจะทำให้การลดน้ำหนักยากกกกขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า!! หรือถ้าคุณมีเงินหน่อย คุณก็อาจจะเลือกที่จะเข้าสถาบันลดน้ำหนักต่างๆซึ่งค่าคอร์สแพงแบบอภิมหาแพง หมดเงินค่าคอร์สไปแสนกว่า น้ำหนักลดไปแค่ 2 กิโล (โอ้พระเจ้า!! นี่ไขมันเรามีค่าถึงกิโลละห้าหมื่นเลยรึนี่) พอหยุดน้ำหนักก็กลับมาเท่าเดิม
ทั้งหมดฟังดูคุ้นๆใช่มั้ย ก็แน่นอนแหละค่ะว่าคนที่เคยฝ่าฟันกับปัญหาเื่รื่องน้ำหนักต้องเคยผ่านเรื่องพวกนี้มาไม่มากก็น้อย แล้วทำไมละ....วิธีประหลาดหรือพิศดารแค่ไหนก็ทำมาหมดแล้ว แต่ทำไมถึงยังไม่ผอมสักที เราพลาดตรงไหน?? เพราะอะไรหนอ...เราถึงไม่สามารถรักษาน้ำหนักของเราไว้ได้??
1. หลายคนตั้งความหวังเอาไว้สูงเกินไป สูงเกินไปยังไงหรอ? 10กิโลต่อเดือน 5วัน3กิโล ไม่ใช่ว่ามันเป็นไปไม่ได้ เพียงแต่ว่าคนส่วนใหญ่ที่พยายามลดน้ำหนักมักจะคาดผลลัพท์ที่สุดโต่ง เห็นผลทันตาประหนึ่งปาฎิหาริย์ อาจจะเป็นมาจากอิทธิพลจากสื่อ ดารา นางแบบที่ผอมกันเหลือเกิน หรือแม้กระทั่งโฆษณาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ลดความอ้วนต่างๆ ที่ทำเหมือนการลดน้ำหนักเป็นเรื่องที่ง่ายมาก และมีกาีีรโฆษณาที่เกินจริงอยู่เยอะพอสมควร แต่ในความเป็นจริงแล้วการลดน้ำหนักที่ถูกต้องควรเป็นไปแบบค่อยเป็นค่อยไปจะดีที่สุดเพื่อให้การลดน้ำหนักเป็นไปแบบถาวร ไม่กลับไปอ้วนอีก ยิ่งคุณตั้งเป้าไว้สูงมากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งกดดันตัวเองมากขึ้นเท่านั้นและโอกาสที่จะล้มเหลวก็สูงตามไปด้วย เพราะฉะนั้นถ้าคุณพยายามลดน้ำหนักมาหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ คุณอาจต้องลองลดความคาดหมายลงบ้าง พยายามตั้งเป้าที่น่าจะเป็นไปได้ ค้นหาแรงบันดาลใจแล้วลองใหม่อีกครั้ง
2. วิธีการที่คุณใช้อยู่ค่อนข้างทรมานเกินไปหรือไม่สามารถทำอย่างต่อเนื่องได้ ยอมรับเถอะค่ะว่าวิธีลดน้ำหนักหรือสูตรลดน้ำหนักมีเป็นร้อยเป็นพัน แต่จะมีสักกี่วิธีหรือกี่สูตรที่สามารถทำอย่างต่อเนื่องได้จริงๆในชีวิตประจำวัน บางสูตรก็เข้มงวดเกินไป นู่นก็กินไม่ได้ นี่ก็กินไม่ได้ บางสูตรก็ทรมานสุดๆ จำกัดแคลลอรี่มากจนเกินไป หิวววววเหลือเกิน นี่อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่คุณลดน้ำหนักไม่สำเร็จสักที...วิธีที่คุณใช้หรือเคยใช้ไม่เหมาะกับคุณ ยิ่งคุณทรมาน หิวโหยมากแค่ไหน ก็ยิ่งง่ายที่คุณจะตะบะแตกแล้วกินทุกอย่างที่ขว้างหน้า แล้วคุณก็ต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ก็เหมือนกับว่าทุกอย่างที่ทำมาเสียเปล่า วิธีลดน้ำหนักที่ดีควรเป็นอะไรที่สามารถทำได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถยืดหยุ่นได้ในระดับหนึ่งโดยที่เราสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติและมีความสุข และที่สำคัญที่สุด...คือวิธีการนั้นๆควรส่งเสริมให้คุณมีสุขภาพที่ดีขึ้น ถ้าจะผอมก็ต้องผอมแบบสุขภาพดี ไม่ใช่ผอมแบบขี้โรค เพราะอย่าลืมซิ ว่าเหตุผลหลักที่เราต้องการลดน้ำหนักคือต้องการชีวิตที่ดีขึ้น!!
3. นิสัย นี่เป็นสิ่งเล็กๆที่มักถูกมองข้ามเสมอ แต่หารู้ไม่ว่า"พฤติกรรม/นิสัย"ส่งผลกระทบกับรูปร่างของเรามากขนาดไหน นิสัยที่ไม่ดีหลายๆอย่างทำให้เราอ้วนโดยที่ไ่ม่รู้ตัว เช่น ไม่ทานมื้อเช้า กินข้าวไม่ตรงเวลา กินจุกกินจิก ไม่ชอบทานผัก ท้องผูกประจำ ไม่ชอบออกกำลังกาย เป็นต้น พฤติกรรมบางอย่างที่เราทำบ่อยๆจนเป็นนิสัยบางอย่างก็เป็นเรื่องเล็กๆที่เรามักจะมองข้าม พรุ่งนี้เช้าคุณลองสังเกตตั้งแต่ตื่นนอนคุณทำอะไรบ้าง แล้วลองจดลิสต์รายการนิสัยที่ไม่ค่อยจะดีต่อสุขภาพของคุณ แล้วค่อยๆปรับพฤติกรรมของคุณไปเรื่อยๆทีละอย่าง ไม่จำเป็นต้องปรับทุกข้อภายในวันเดียว การปรับเปลี่ยนนิสัยอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับหลายๆคน ค่อยเป็นค่อยไปจะดีที่สุด ผ่านไปสักพักคุณจะเห็นเองว่าเรื่องเล็กๆพวกนี้ส่งผลให้คุณสามารถลดน้ำหนักได้ง่ายขึ้นมากแค่ไหน
การลดน้ำหนักที่ดีนั้นควรเป็นไปแบบค่อยเป็นค่อยไป ก้าวเล็กๆทีละก้าวแต่ถาวร ที่สำคัญ....มันไม่มียา/อาหารเสริมมหัศจรรย์บนโลกใบนี้ทีจะทำให้คุณผอมอย่างถาวร เพราะฉะนั้นทุกอย่างอยู่ที่ตัวคุณเองเป็นหลัก มีแรงบันดาลใจและเชื่อมั่นในตัวคุณเอง ผอมได้แน่นอนค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น