วันศุกร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2557

อาเซอิ เบอรี่ (Acai Berry) ช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือ?

     หลายๆ คนคงจะเคยได้ยินชื่อ"อาซาอิ เบอร์รี่" (Acai Berry) ผลไม้มหัศจรรย์จากอเมริกาใต้ซึ่งกำลังมาแรงและเป็นที่นิยมในหมู่ของสาวๆ ที่รักสวยรักงาม อาซาอิเบอร์รี่ขึ้นชื่ออย่างมากในประโยชน์ด้านสุขภาพโดยเฉพาะด้านความงามเพราะเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มากที่สุด ช่วยลดและป้องกันการเกิดริ้วรอย ฟื้นฟูและบำรุงผิวผรรณให้เปล่งปลั่งสดใส มากกว่านั้นในต่างประเทศยังมีการกล่าวถึงประโยชน์ของอาซาอิเบอร์รี่ในแง่ของการลดน้ำหนักอีกด้วยทั้งสูตรอาหารลดน้ำหนักและอาหารเสริม เป็นไปได้หรอว่าผลไม้ชนิดนี้จะมีสรรพคุณครอบจักรวาลอย่างมากมาย มันจะเป็นเรื่องจริงหรือเป็นเพียงแค่การกล่าวอ้างสรรพคุณเกินจริงกันแน่? มาดูกัน...

   

     ก่อนอื่นสำหรับใครที่ไม่รู้จักอาซาอิเบอรี่หรือเพิ่งจะเคยได้ยินชื่อเป็นครั้งแรก อาซาอิเบอรี่(Acai Berry) เป็นผลไม้ตระกูลเบอรี่มีแหล่งกำเนิดจากป่าอะเมซอน,อเมริกาใต้ จากการวิจัยพบว่าเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์, แหล่งไขมันชั้นเยี่ยมสำหรับหัวใจ และสารต้านอนุมูลอิสระที่สูงมากๆ ช่วยต่อต้านและป้องกันโรคหัวใจและมะเร็ง นอกจากนี้ในระหว่างการวิจัยอาซาอิเบอร์รี่ของ University of Florida พบว่าสารสกัดจากอาซาอิเบอร์รี่ช่วยฆ่าเซลล์ลูคีเมีย(Leukemia)ได้ด้วย แต่เมื่อมาถึงอาซาอิเบอร์รี่กับการลดน้ำหนัก (อ้างอิงจาก www.webmd.com)กลับพบว่าไม่ค่อยมีหลักฐานจากการวิจัยมาสนับสนุนแนวคิดนี้มากนัก ไม่ใช่ว่าเรื่องนี้จะเป็นหลอกลวง เพียงแต่การวิจัยเกี่ยวกับประโยชน์ของอาซาอิเบอร์รี่ในแง่นี้ยังมีไม่มากพอและยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมอีกมากถึงจะทำการสรุปได้

     สรุปคืออาซาอิเบอร์รี่่ถือเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ทางโภชนาการสูงมากๆ ที่ดีต่อสุขภาพร่างกายโดยรวมและความงาม การบริโภคอาซาอิเบอร์รี่ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบผลไม้สดหรืออาหารเสริมควรใช้วิจารณญานในการตัดสินใจอย่างรอบคอบเนื่องจาก ณ ปัจจุบันยังไม่มีผลการวิจัยใดๆ ที่สามารถยืนยันหรือพิสูจน์ว่าอาซาอิเบอร์รี่ช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือเปล่า และหากคุณตัดสินใจที่จะซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมใดๆ ที่สกัดจากอาซาอิเบอร์รี่ก็ควรศึกษาฉลากและแหล่งที่มาของส่วนผสมอย่างละเอียดด้วย



ข้อมูลอ้างอิง :
http://www.webmd.com/diet/features/acai-weight-loss-wonder-fruit
http://www.fitday.com/fitness-articles/fitness/weight-loss/the-acai-berry-dietary-supplement-hype-and-fact.html#b

วันอังคารที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2557

เคล็ดลับลดน้ำหนักเจ๋งๆ จากจิลเลี่ยน ไมเคิล (Jillian Michaels)



จิลเลี่ยน ไมเคิล (Jillian Michaels) เทรนเนอร์สุดโหดจากซีรี่ย์ The biggest loser ที่ช่วยให้คนมากมายประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนัก เธอรู้จริงในเรื่องการลดน้ำหนัก! ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย โภชนาการ หรือแม้กระทั่งแรงจูงใจ นี่เป็นเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ที่เห็นผลได้จริงจากจิลเลี่ยนที่จะมาช่วยกำจัดน้ำหนักที่คุณไม่ต้องการให้หายไป...

Diet tip 1 # Swear off fad diets -- fad diet คืออะไรหนอ?? มันคือแผนไดเอทที่นิยมเป็นช่วงๆ ตามเทรนที่สัญญาว่าคุณจะลดน้ำหนักมากมายมหาโขภายในเวลาที่สั้นมากๆ ตัวอย่างเช่น ซุปลดน้ำหนัก 7 วัน(ที่คุณไม่ได้กินอะไรอย่างอื่นเลยนอกจากซุป ซุป แล้วก็ซุป) หรือพวกไดเอทที่ให้งดแป้งและไขมันโดยสิ้นเชิง ซึ่งมันก็ลดได้จริง แต่เฉพาะแค่เวลาสั้นๆ เท่านั้น ไม่มีผลในระยะยาว และที่สำคัญที่สุด...แผนไดเอทพวกนี้ส่งผลเสียแบบร้ายกาจกับระบบเผาผลาญของร่างกายอย่างสุดๆ!! เพราะแผนไดเอทพวกนี้ถ้าไม่ทำให้คุณอดยากหิวโหยแบบเหนือบรรยาย ก็ทำให้ร่างกายขาดสารอาหารจากการตัดหมวดหมู่ของอาหารบางหมู่ออก ถ้าไม่อยากให้ร่างกายต้องเผชิญกับระบบเผาผลาญที่ย่ำแย่และการขาดสารอาหาร เจ๊จิลแนะนำว่าให้เลิกพวกเทรนfad dietทั้งหลายทั้งปวง

Diet tip 2 # Be an 80/20 eater -- พยายามให้ 80%ของอาหารที่คุณรับประทานในแต่ละวันเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ส่วนอีก 20%ที่เหลือพยายามสนุกกับอาหารอะไรก็ได้ที่คุณชอบ จิลเลี่ยนบอกว่าทำแบบนี้จะป้องกันไม่ให้รู้สึกขาดแคลนหรือโหยหาอาหารบางอย่างมากจนวันนึงตะบะแตกกินทุกอย่างที่ขวางหน้า

Diet tip 3 # Speak in positives -- วิธีการพูดของเราเองสามารถส่งผลในด้านบวกได้ แทนที่จะพูดว่า "ฉันต้อง....." หรือ "ฉันทำไม่ได้" ลองเปลี่ยนมาเป็น "ฉันเลือกที่จะ....."หรือ "ฉันเชื่อว่า......" จะดีกว่า มันจะทำให้คุณรู้สึกถึงอำนาจในการที่จะเป็นผู้ตัดสินใจด้วยตัวเอง

Diet tip 4# Get your sleep -- การนอนหลับให้เพียงพอในแต่ละคืนคือสิ่งสำคัญพื้นฐานในการลดน้ำหนัก เพราะมันมีผลกับฮอร์โมนที่ควบคุมการเผาผลาญไขมัน, กักเก็บไขมัน, และการคงอยู่ของกล้ามเนื้อ ยิ่งฮอร์โมนในร่างกายมีความสมดุลมากเท่าไหร่ การควบคุมน้ำหนักก็จะง่ายขึ้นเท่านั้น นั่นคือเหตุผลที่จิลเลี่ยนพยายามที่จะนอนหลับให้ได้คืนละ 6-8 ชั่วโมง

Diet tip 5 # Diversify your workout -- ออกกำลังกายให้หลากหลาย จิลเลี่ยนอธิบายว่าเมื่อคุณออกกำลังกายกล้ามเนื้อพร้อมกันหลายส่วนในเวลาเดียวกัน คุณไม่ใช่แค่ออกกำลังกายเฉพาะส่วนนั้นๆ แต่คุณกำลังออกกำลังกายหัวใจและหลอดเลือดหัวใจไปในเวลาเดียวกันด้วย ประโยชน์คือช่วยในการประหยัดเวลาและทำให้เผาผลาญพลังงานได้มากขึ้น นี่ไง..ที่เค้าเรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว!!

Diet tip 6 # Order wisely at restaurants -- อีกหนึ่งเคล็ดลับลดน้ำหนักที่น่าสนใจจากจิลเลี่ยนคือ สั่งอาหารอย่างชาญฉลาด อย่ากลัวที่จะถามหรือสั่งอาหารในแบบที่คุณต้องการ ผู้หญิงสมัยใหม่ควรกล้าที่จะยืนหยัดในสิ่งที่ตัวเองต้องการ

Diet tip 7 # Scout out lunch spots near office -- ค้นหารายชื่อร้านอาหารใกล้ที่ทำงาน การมีลิสต์ร้านอาหารจะช่วยให้คุณสะดวกมากขึ้นในการตัดสินใจว่าวันนี้จะทานอาหารเที่ยงที่ไหนดี เพราะอย่างน้อยคุณก็สามารถที่จะเลือกทานร้านที่ดูจะดีต่อสุขภาพคุณได้มากขี้น

Diet tip 8 # Fill up before parties -- ทานอาหารก่อนไปปาร์ตี้ ฟังดูแปลกๆใช่มั้ย จิลเลี่ยนแนะนำว่าควรทานของว่างรองท้องก่อนไปปาร์ตี้ทุกครั้ง เพราะปาร์ตี้หรืองานเลี้ยงส่วนใหญ่มักจะเสิร์ฟบุฟเฟ่ ซึ่งถ้าคุณกำลังหิวจัดเป็นไปได้ว่าคุณอาจจะฟาดทุกอย่างที่ขวางหน้าแบบไม่ยั้ง

Diet tip 9 # Eat citrus every day -- ทานผลไม้ตระกูลส้มทุกวัน นั่นเพราะวิตามินซีช่วยยับยั้งฮอร์โมน"คอร์ติซอล"; ฮอร์โมนที่สั่งให้ร่างกายสะสมไขมัน

Diet tip 10 # Drink plenty of water -- ดื่มน้ำเยอะๆ ดื่มน้ำให้เพียงพอแล้วคุณจะโหยแป้งหรือคาร์โบไฮเดรตน้อยลง ยังไม่พอ!! ระบบเผาผลาญจะทำงานได้ดีขึ้นถึง 3%เชียวละ!!

Diet tip 11 # Say yes to dark chocolate -- ทานดาร์กช็อกโกแลต หลายๆคนอาจจะไม่เชื่อว่าช็อกโกแลตจัดเป็นหนึ่งในอาหารสุขภาพที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงมากๆ มันเป็นเรื่องจริง!! แต่น้ำตาลและนมที่อยู่ในช็อกโกแลตเป็นผู้ร้ายที่ทำให้คุณอ้วน เพราะฉะนั้นถ้าเป็นไปได้ให้เลือกช็อกโกแลตแบบดาร์กหรือที่มีนมและน้ำตาลเป็นส่วนผสมให้น้อยที่สุดแล้วคุณจะปลอดภัย

Diet tip 12 # Stand up! -- ยืนขึ้น! พยายามยืนให้มากที่สุด เพราะขณะยืนร่างกายใช้พลังงานมากกว่านั่งมากถึง 1.5 เท่า

Diet tip 13 # Clean out your pantry -- โละตู้กับข้าวใหม่ซะ อะไรที่มีส่วนผสมของtrans fats, น้ำตาลเทียม และพวกน้ำเชื่อมทั้งหลายทิ้งไปซะ!!

Diet tip 14 # Spotlight healthy food -- จัดวางอาหารที่ดีต่อสุขภาพไว้ที่ที่มองเห็นได้ง่าย : ผลไม้บนเคาร์เตอร์, ในตู้เย็น-วางอาหารที่เฮลตี้ที่สุดในระดับสายตา, ในตู้กับข้าว-วางของว่าง/ขนมที่เฮลตี้ในตำแหน่งที่จะเห็นได้ชัดที่สุดเมื่อเปิดตู้

Diet tip 15 # Ration your junk food -- ระวังปริมาณของอาหารขยะที่คุณจะซื้อให้ดีๆ อย่าซื้อมากกว่าที่คุณจะกินหมดได้ในหนึ่งวัน และเพื่อความปลอดภัยของน้ำหนักบนตาชั่งของคุณเอง แทนที่จะซื้อขนาดใหญ่ ควรซื้อขนาดไซส์เล็กจะดีกว่า เช่น มันฝรั่งห่อเล็ก เป็นต้น เพราะถ้าซื้อห่อใหญ่ มีความเป็นไปได้สูงมากว่าคุณจะกินมันทีเดียวหมดทั้งห่อในภายเดียว

ที่มา http://www.health.com/

วันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

6 เคล็ดลับที่ไม่ลับ....กับการลดความอ้วน

การลดความอ้วน ถ้าจะว่ายาก..ก็ยาก ถ้าจะว่าง่าย..ก็ง่าย ซึ่งคนที่ประสบความสำเร็จกับการลดความอ้วน มักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า"มันอยู่ที่พฤติกรรมของคุณเองนั่นแหละ" แต่การเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเรานี่สิ...ไม่ใช่ง่ายเลยนะ

ถ้างั้น.. มาดูกันว่ามีเคล็ดลับอะไรบ้างที่เราสามารถลองปรับเพื่อให้มีหุ่นเรียวบางกันบ้าง

1. ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ อันนี้เป็นอะไรที่สำคัญมากๆ การดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอต่อวันช่วยส่งเสริมสุขภาพของเราในทางที่ดีหลายๆ ด้าน อย่างน้อยที่ดีสุดก็ป้องกันไม่ให้เรากระหายจนหน้ามืดหันไปหาเครื่องดื่มแคลอรี่สูงอย่างพวกน้ำอัดลม เราควรดื่มน้ำอย่างต่ำวันละ 7-8 แก้ว ไม่ใช่ดื่มครั้งเดียวหมดนะ!! หมายถึงค่อยๆ ดื่มตลอดวันเพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ สำหรับคนที่ไม่ชอบดื่มน้ำอาจจะพบว่านี่เป็นเรื่องยาก คุณอาจลองพกขวดน้ำเล็กๆ ติดตัวไว้แล้วจิบทุกครั้งที่นึกขึ้นได้ ก็จะช่วยให้คุณดื่มน้ำระหว่างวันได้มากขึ้น

2. พยายามอยู่ให้ห่างไกลอาหารที่ผ่านกระบวนการแปรรูปให้มากที่สุด อาหารแปรรูปไม่ได้หมายถึงแค่พวกอาหารจำพวกไส้กรอก แฮมเท่านั้น แต่รวมไปถึงอาหารกระป๋องและอาหารแช่แข็งทั้งหลาย ถ้าคุณพบว่าส่วนประกอบบนฉลากของอาหารนั่นๆ คุณอ่านออกเสียงไม่ถูกหรือไม่รู้จัก จำไว้เลยว่าให้อยู่ห่างๆ อาหารนั่นๆ ไว้

เหตุผลที่อาหารแปรรูปไม่ดีต่อความผอมของคุณเป็นเพราะว่า อาหารเหล่านั้นได้ผ่านกระบวนการทางเคมีต่างๆ ในการผลิต ซึ่งหากคุณบริโภคเข้าไปจะทำให้เกิดการตกค้างของสารเคมีหรือสารพิษในร่างกาย แล้วพวกสารเคมีหรือสารพิษพวกนี้ก็มักจะไปสะสมอยู่กับไขมัน ผลลัพท์ก็คือทำให้ลดน้ำหนักได้ยากขึ้น

ถึงแม้อาหารแปรรูปทั้งหลายจะสะดวกในชีวิตประจำวันที่เร่งรีบและทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้น แต่ถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็ควรหลีกเลี่ยงซะ พยายามเลือกทานอาหารที่สดใหม่จะดีกว่า ถ้าคุณไม่เคยย่างกรายเข้าไปในตลาดสดหรือแผนกอาหารสดเลย นี่จะเป็นโอกาสที่ดีของคุณที่จะเปิดกว้างมุมมองการเลือกรับประทานอาหารของคุณ เป็นไปได้ว่าคุณอาจได้รับประโยชน์มากกว่าที่คุณคิดก็ได้

3. ทานทุกๆ 3 ชั่วโมง ปกติเราจะทานอาหารวันละ 3 มื้อ ; เช้า-กลางวัน-เย็น แต่้ถ้าคุณอยากบูสการทำงานของระบบเผาผลาญ คุณควรเพิ่มมื้อเล็กๆ ระหว่างวันด้วย เน้นว่ามื้อเล็กๆ ตัวอย่างเช่น ถั่ว 1 กำมือ, โยเกิร์ต 1 ถ้วย, แอบเปิ้ล 1 ลูก เป็นต้น สาเหตุที่มื้อเล็กๆ ระหว่างวันช่วยให้คุณลดน้ำหนักง่ายขึ้น เป็นเพราะเมื่อใดก็ตามที่คุณไม่ได้ทานอะไรนานเกิน 4 ชั่วโมง(ยกเว้นตอนนอนหลับ) ร่างกายของคุณจะปรับตัวเองเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงาน ส่งผลให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานน้อยลง สะสมไขมันมากขึ้น ถ้าไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น พยายามพกของว่าง(ที่มีประโยชน์)ติดตัวไว้เสมอและไม่ควรปล่อยให้มื้ออาหารห่างกันมากกว่า 4 ชั่วโมง เพื่อให้ระบบเผาผลาญของเราทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

4. โปรตีนควรมีอยู่ในอาหารทุกมื้อของคุณ โปรตีน โปรตีน โปรตีน คุณได้ยินมันเกือบทุกวัน คุณอาจจะคิดว่าโปรตีนนั้นสำหรับนักเพาะกล้ามหรือคนที่ต้องการมีกล้ามใหญ่ๆ เท่านั้น และหากคุณกินโปรตีนเข้าไปคุณอาจจะกลายร่างเป็นเดอะฮัคก็ได้ เป็นความเชื่อที่ผิด!!! ถ้าคุณต้องการจะลดไขมันไปพร้อมๆ กับลดน้ำหนัก โปรตีนคือสิ่งที่สำคัญมากๆ สำหรับคุณ เพราะอะไรงั้นหรอ? ประการแรก โปรตีนช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบเผาผลาญของคุณ โปรตีนมีส่วนสำคัญที่ช่วยในการซ่อมแซมตัวเองและป้องกันการสลายตัวของกล้ามเนื้อ  ประการที่สอง คุณรู้หรือไม่ว่าร่างกายต้องใช้พลังงานอย่างมากมายในการย่อยโปรตีน มากกว่าอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตและไขมันซะอีก นอกจากนี้แล้วคุณควรคำนึงถึงการเลือกรับประทานโปรตีนที่มีคุณภาพด้วย เช่น จากปลา ไข่ ไก่ ถั่ว เป็นต้น

5. ยกน้ำหนัก เมื่อพูดถึงการออกกำลังกาย....คนที่พยายามลดน้ำหนักส่วนใหญ่มักจะนึกถึงการออกกำลังกายแนวคาร์ดิโอ มันก็ไม่ได้ผิดอะไรหรอกนะ เพียงแต่การออกกำลังกายแนวยกน้ำหนักหรือฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อจะช่วยลดน้ำหนักได้ดีกว่าในระยะยาว เพราะหลังการยกน้ำหนักหรือฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ร่างกายจำเป็นต้องใช้พลังงานค่อนข้างสูงในการซ่อมแซมตัวเองหรือกลับคืนสู่สภาพ จึงเกิดปฏิกิริยาที่เรียกว่า "After burn effect" คือการที่ร่างกายยังคงเผาผลาญพลังงานต่อเนื่องในระดับเดียวกับขณะออกกำลังกายแม้ว่าจะไม่ได้กำลังออกกำลังกายอยู่ก็ตาม การยกน้ำหนักหรือฝึกกล้ามเนื้อเป็นประจำจะส่งผลให้ระบบเผาผลาญทำงานมากขึ้น นอกจากนี้คุณยังได้กล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นอีกด้วย การยกน้ำหนักหรือฝึกกล้ามเนื้อเพื่อให้ได้ผลลัพท์ที่ชัดเจนควรออกกำลังกายแนวนี้ 3-4 ครั้งต่ออาทิตย์หรือวันเว้นวันเพื่อให้ร่างกายได้พักฝื้น และเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดคุณสามารถออกกำลังกายแนวยกน้ำหนักร่วมกันกับแนวคาร์ดิโอก็ได้เช่นกัน

6. ขยับบ่อยๆ ถ้าคุณอยากผอม คุณควรเป็นคนที่มีความแอคทีฟสูง อย่าหยุดนิ่งอยู่เฉยๆ เป็นเวลานานๆ(ยกเว้นตอนนอนนะ) พยายามเคลื่อนไหวทำนู่นทำนี่เรื่อยๆ ฟังดูเหมือนง่ายนะ แต่ก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่พูดเลยเพราะอุปสรรคของหลายๆ คนคือ"ความขี้เกียจ" ถ้าคุณอยากเป็นคนผอมตลอดกาล จำเป็นมากที่จะต้องปรับตัวเอง อาจจะเริ่มด้วยการทำงานบ้านเอง จอดรถไกลหน่อยเพื่อให้ได้เดินมากขึ้น ใช้บันไดแทนการใช้ลิฟ เป็นต้น

ถ้าคุณต้องการลดน้ำหนัก "พฤติกรรม" เป็นสิ่งที่สำคัญมาก คุณไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนพฤติกรรมทั้งหมดผ่านในวันเดียว ค่อยเป็นคอยไปจะดีที่สุด และอีกอย่างที่สำคัญมากๆเช่นกันคือ"ทัศนคติ" เมื่อใดก็ตามที่คุณเชื่อว่าคุณทำได้...ความสำเร็จก็อยู่ไม่ไกลหรอก

วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

เซลลูไลท์....กำจัดได้จริงหรือ??

เซลลูไลท์หรือผิวเปลือกส้มเปรียบเสมือนศัตรูอันร้ายกาฉของผู้หญิงได้เลยทีเดียว ซึ่งส่งผลให้หลายๆคนขาดความมั่นใจในตัวเอง ไม่กล้าที่จะใส่กางเกงขาสั้นหรืออวดเรียวขา ต้องคอยปกปิดตลอด เซลลูไลท์สามารถที่จะเกิดขึ้นได้กับทุกคน ผู้ชายหรือผู้หญิง(แต่มักพบในผู้หญิงมากกว่า) จะอ้วนหรือผอมเป็นได้ทั้งนั้น น้ำหนักตัวไม่ใช่ปัจจัยสำคัญ

มาดูกันว่าแท้จริงแล้ว"เซลลูไลท์"คืออะไร? แล้วมันเกิดขึ้นได้ไง?

เซลลูไลท์ (cellulite) คือ เซลล์ก้อนไขมันที่สะสมกันใต้ผิวหนังอย่างหนาแน่นจนนูนขึ้นมาตะบุ่มตะบ่ำคล้ายผิวของเปลือกส้ม 80% ของผู้หญิงมีเซลลูไลท์ขึ้นอยู่กับว่ามากหรือน้อย ส่วนใหญ่พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย บริเวณที่มักพบเซลลูไลท์ ได้แก่ ต้นขา ต้นแขน หน้าท้อง และสะโพก

สาเหตุที่ทำให้เกิดเซลลูไลท์

  • อาหาร การรับประทานอาหารจำพวกไขมันหรือคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป
  • ขาดการออกกำลังกายหรือทำงานที่นั่งอยู่กับที่่มากเกินไป
  • อายุ อายุที่มากขึ้นอาจทำให้เซลลูไลท์เห็นไ้ด้ชัดขึ้น
  • ฮอร์โมน เนื่องจากเซลลูไลท์มักพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ทำให้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเชื่อว่าฮอร์โมนมีผลกับการเกิดขึ้นของเซลลูไลท์ โดยเฉพาะช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจน เช่น ย่างเข้าสู่วัยรุ่น ช่วงตั้งครรภ์ ย่างเข้าสู่วัยทอง และแน่นอนการทานยาคุมทำให้แนวโน้มการเกิดเซลลูไลท์สูงขึ้นด้วย
  • กรรมพันธุ์ ถ้าคุณสังเกตว่าแม่ของคุณมีเซลลูไลท์ ก็ไม่แปลกที่คุณจะมีเซลลูไลท์ด้วยเหมือนกัน
  • สูบบุหรี่
  • ความเครียด
แล้วมีวิธีกำจัดเซลลูไลท์มั้ย??
แน่นอนว่ามีครีม โลชั่น เทคโนโลยีหรืออุปกรณ์ทางการแพทย์มากมายก่ายกองที่เครมว่าสามารถกำจัดเซลลูไลท์ได้ แต่ข่าวร้ายคือไม่มีเทคโนโลยีหรือครีมใดๆที่สามารถกำจัดเซลลูไลท์ได้จริงๆ ผลลัพท์ที่ได้ส่วนใหญ่คือผิวที่ดูเรียบเนียนขึ้น สม่ำเสมอขึ้น แต่คุณต้องจ่ายเงินไปจำนวนมากมาย และผลลัพท์ส่วนใหญ่มักจะเป็นผลลัพท์แค่ชั่วคราว ถ้าคุณหยุดเข้ารับการรักษาหรือใช้ครีม ผลลัพท์ที่ได้ก็จะค่อยๆหายไป วิธีที่ดีที่สุดสำหรับการรับมือกับเซลลูไลท์คงหนีไม่พ้น"โภชนาการที่ดี"และ"ออกกำลังกายที่เหมาะสม" ก็แหงละ เซลลูไลท์มันก็คือไขมันดีๆนี่เอง

โภชนาการที่ดี ถึงแม้จะไม่มีอาหารอะไรที่จะสามารถกำจัดเซลลูไลท์แบบตรงจุดได้ แต่การเลือกรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์กับร่างกาย นอกจากผิวผรรณ รูปร่างที่ดีขึ้นแล้วยังช่วยในการซ่อมแซมตัวเองของผิวอีกด้วย ส่งผลให้เซลลูไลท์สามารถดูดีขึ้นได้ในระยะยาว

งั้นมาดูกันว่ามีอาหารอะไรเป็นพิเศษที่จะช่วยให้เรารับมือกับเซลลูไลท์ได้ดีมากขึ้น

  • ผักและผลไม้สด ยิ่งเยอะยิ่งดี อันนี้สำคัญมากเพราะมักถูกมองข้ามได้ง่าย
  • โปรตีนไขมันต่ำ เช่น ปลา ไก่ รวมถึงพืชตระกูลถั่วด้วย
  • น้ำเปล่า อย่างต่ำวันละ 8 แก้ว
  • พยายามเลือกทานอาหารที่ใกล้เคียงธรรมชาติให้มากที่สุด ที่ผ่านการดัดแปลงหรือขัดสีให้น้อยที่สุด อย่างเช่น ข้าวกล้อง ขนมปังชนิดโฮลวีท เป็นต้น
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงถ้าหากต้องการขาเีรียวสวยไร้เซลลูไลท์

  • อาหารที่มีส่วนประกอบของน้ำตาลสูง เช่น ลูกอม
  • ระวังปริมาณการรับประทานประเภทคารโบไฮเดรตทุกชนิดในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นข้าว ขนมปัง หรือพาสต้า 
  • ควรระวังปริมาณเกลือของเกลือที่ปริโภคในแต่ละวัน ถ้าหลีกเลี่ยงได้ควรหลีกเลี่่ยง 
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่ผ่านการดัดแปลง เช่น ไส้กรอก 
  • ถ้าคุณเป็นนักปาร์ตี้ตัวยง ควรลดปริมาณแอลกอฮอล์ให้เหลือแค่อาทิตย์ละ 1-2 แก้ว

ออกกำลังกายเพื่อลดเซลลูไลท์ การออกกำลังกายน่าจะเป็นวิธีการที่ดีที่สุดที่จะกำจัดเซลลูไลท์แบบถาวร การออกกำลังกายจะช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกิน เพิ่มอัตราการเผาผลาญ ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น และกล้ามเนื้อต่างๆกระชับได้สัดส่วนมากขึ้น การออกกำลังเพื่อกำจัดเซลลูไลท์ไม่ได้จำกัดแค่การออกกำลังกายแค่อย่างหรือสองอย่าง ที่จริงแล้วการออกกำลังกายเกือบทุกอย่างสามารถช่วยลดเซลลูไลท์ได้ ไม่ว่าจะโยคะ พิลาติส วิ่ง ว่ายน้ำ เต้น คุณสามารถเลือกออกกำลังกายที่คุณชอบแล้วเน้นบริเวณที่คุณกังวลเป็นพิเศษเพิ่มเติม ความลับที่จะกำจัดเซลลูไลท์มีอยู่ว่าควรออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อยอาทิตย์ละ 4-5 ครั้ง และควรออกกำลังกายให้หลากหลาย หมั่นเปลี่ยนแปลงหรือท้าทายตัวเองมากขึ้น ไม่ควรทำอะไรซ้ำๆมากกว่า 3 เดือน ตัวอย่างเช่น หากคุณยกน้ำหนัก อาจลองเพิ่มน้ำหนักที่ใช้ทุกๆเดือนหรือสองเดือน เป็นต้น


    เซลลูไลท์เป็นสิ่งที่สาวๆ เกือบทุกคนต้องการจะกำจัด ถึงแม้จะมีครีม เครื่องมือ อุปกรณ์ทางแพทย์ หรือเทคโนโลยีสมัยใหม่ราคาแพงมานำเสนอ แต่ปรากฎว่าวิธีที่จะกำจัดเซลลูไลท์ได้ดีที่สุดคืออาหารและออกกำลังกาย รวมถึงการปรับวิถีการใช้ชีวิตของตัวคุณเอง